เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2554 นายสุขุม สมประสงค์ รองกงสุลใหญ่ (ท้องถิ่น) ได้รับมอบหมายให้รับเชิญคณะผู้จัดงานมาฆบูชาโลก ครั้งที่ 2 ที่เวฬุวันมหาวิหาร เมืองราชคฤห์ รัฐพิหาร หรือกรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ ในสมัยพุทธกาล เข้าร่วมพิธีเปิดงานดังกล่าว สรุปได้ ดังนี้

                  1. พิธีเปิดงานเริ่มในเวลาประมาณ 15.00 น. พระสังฆราชแห่งศรีลังกา องค์ประธานในพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระอาจารย์อารยะวังโส เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย จังหวัดลำพูน กล่าวเปิดงาน โดยบรรยายธรรมถึงความสำคัญของโอวาทปาติโมกข์ ซึ่งสมเด็จพระบรมศาสดา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงแสดงแก่พระอรหันต์ 1,250 องค์ ซึ่งเดินทางมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ที่เวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานในครั้งนี้ และครั้งที่แล้วเมื่อปี 2553  ศาสนาพุทธมีความสำคัญได้รับการยอมรับจากสหประชาชาติโดยกำหนดให้    วันวิสาขบูชาซึ่งเป็นวันกำเนิดของพระพุทธศาสนาเป็นวันสำคัญทางศาสนาของโลก วันมาฆบูชาก็มีความสำคัญมาก เนื่องจากพระพุทธองค์ได้ทรงเทศนาโอวาทปาติโมกข์แก่พระอรหันต์ซึ่งพระพุทธองค์ได้ทรงบวชให้ โดยโอวาทปาติโมกข์ครอบคลุมถึงหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ทั้งหมด เป็นเสมือนการอบรมพระอรหันตสาวกทั้งหลายนั้นให้พึงระวังรักษาและปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เวฬุวันมหาวิหารจึงเปรียบเสมือนมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกในโลก

                  หลังจากนั้น เป็นการกล่าวปราศรัยโดยบุคคลสำคัญต่างๆ ทั้งฝ่ายไทยและอินเดียในงาน

                  ฝ่ายอินเดียมี อาทิ นายสรวัน กุมาร (Shravan Kumar) ประธานวิปพรรครัฐบาล สภาแห่งรัฐพิหาร กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลรัฐพิหารในการส่งเสริมกิจกรรมและโครงการต่างๆ ของพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ ทุกศาสนาในรัฐ  รัฐบาลฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและโครงการพัฒนาที่เกี่ยวกับศาสนสถานต่างๆ มากมายและจะดำเนินการให้ดียิ่งขึ้น                   ฝ่ายไทยมี อาทิ คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย ชื่นชมการจัดงานครั้งนี้ และขอบคุณรัฐบาลพิหารที่ให้ความร่วมมือด้วยดี และกล่าวถึงความสำคัญของพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ประชาชนทั่วไปสามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้นยังมี  ดร. นิธินันท์ วิศเวศวร รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ม.ล.สราลี กิติยากร และปิดท้ายด้วยนายสุขุมฯ