สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา จัดกิจกรรมเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมืออันดีกับอินเดีย โดยมีพระพุทธศาสนาเป็นสื่อกลางสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธ์และมิตรภาพระหว่างทั้งสองประเทศ ดังนี้

        1. พิธีถวายพระพุทธรูป ณ ปาฏลีบุตรกรุณาสถูป และถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ เมืองปัฏนะ
           เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2568 สถานกงสุลใหญ่ฯ ร่วมกับวัดไทยพุทธคยา ถวายพระพุทธรูปเพื่อประดิษฐานเป็นองค์พระประธาน ณ ปาฏลีบุตรกรุณาสถูป (Patliputra Karuna Stupa) ภายในสวนพุทธสมฤติ (Buddha Smriti Park) เมืองปัฏนะ รัฐพิหาร โดยมีผู้แทนระดับสูงจากรัฐบาลรัฐพิหาร ได้แก่ นาย Animesh Kumar Parashar ตำแหน่ง Managing Director ของหน่วยงาน Bihar Urban Infrastructure Development Corporation (BUIDCO) ผู้แทน Patna District และเจ้าหน้าที่ของ Buddha Smriti Park เข้าร่วมพิธีรับมอบพระพุทธรูป และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ในโอกาสนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์อินเดียและพระภิกษุสงฆ์ไทยจำนวน 15 รูป กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นการแสดงออกถึงความร่วมมือและมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและอินเดีย ผ่านพระพุทธศาสนาในฐานะรากฐานทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณที่ทั้งสองประเทศมีร่วมกัน

       2. กิจกรรมถวายภัตตาหารเพล ณ วัดพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา
           เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้จัดกิจกรรมถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์อินเดียจำนวน 10 รูป ณ วัดพระศรีมหาโพธิ์ เมืองคยา รัฐพิหาร และรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับคณะกรรมการผู้บริหาร Bodhgaya Temple Management Committee (BTMC) เพื่อเป็นการแสดงไมตรีจิต เสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมืออันดีและกระชับความสัมพันธ์กับคณะพระภิกษุสงฆ์อินเดียและคณะกรรมการผู้บริหาร BTMC โดย BTMC มีบทบาทสำคัญในการดูแลและบริหารจัดการวัดพระศรีมหาโพธิ์ซึ่งเป็นหนึ่งในสังเวชนียสถานที่สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา โดยรัฐพิหารเป็นเส้นทางแสวงบุญของพุทธศาสนิกชนจากทั่วโลก รวมถึงชาวไทย ซึ่งมีวัดไทยตั้งอยู่กว่า 30 แห่งในรัฐพิหาร และมีพุทธศาสนิกชนไทยเดินทางไปสักการะปีละกว่า 80,000 คน
          กิจกรรมทั้งสองครั้งสะท้อนถึงบทบาทเชิงรุกของสถานกงสุลใหญ่ฯ ในการใช้พระพุทธศาสนาเป็นสื่อกลางเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและอินเดีย ตลอดจนสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาครัฐ คณะสงฆ์ และชุมชนท้องถิ่น ซึ่งมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความเข้าใจอันดี มิตรภาพที่มั่นคง และความร่วมมืออย่างยั่งยืนระหว่างภาครัฐและประชาชนของทั้งสองประเทศ